บริษัท พีคเพาเวอร์ มอเตอร์ จำกัด ส่งรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า แพนเธอร่า รุ่น classic ไปจดทะเบียนและใช้งานแล้วที่เชียงใหม่ มานานกว่า 6 เดือน จนมั่นใจว่าตอบโจทย์ผู้ใช้รถตุ๊กตุ๊กทุกข้อ

วันนี้ทีมงาน อีตุ๊กตุ๊กนิวส์ ได้บุกมากันที่โรงงานผลิตรถบริษัท พีคเพาเวอร์ มอเตอร์ จำกัด ย่านสามพราน นครปฐม เพื่อขอสัมภาษณ์พิเศษ ผู้บริหารบริษัท เกี่ยวกับที่มาที่ไปของการทำรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของผู้ผลิตรายนี้
หลังจากที่ ขับรถหลงกันพอหอมปากหอมคอแล้ว เราก็มาถึงโรงงานได้สำเร็จ และได้พบกับคุณไชยรัตน์ รัตนวราภรณ์ กรรมการผู้จัดการและคุณธนวัฒน์ ประสานธรรมคุณ ผู้จัดการทั่วไป ซึ่งรอเราอยู่แล้ว

• จุดเริ่มต้นและประสบการณ์ของบริษัท

คุณไชยรัตน์ ได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า จุดเริ่มต้นของบริษัทฯ เริ่มจากที่บริษัทฯ ได้รับว่าจ้างให้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้รถสามล้อสาธารณะไฟฟ้าที่เชียงใหม่ จากการที่ได้เข้าคลุกคลีและเก็บข้อมูลของผู้ใช้รถ บริษัทนำข้อมูลที่ได้มารวมกับการปรับปรุงรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้ามาเรื่อยๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถมากที่สุด และได้ทำการทดสอบให้วิ่งใช้งานจริงเป็นระยะเวลา 1 ปี จนเป็นที่พอใจ และในเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมาได้มีการก่อตั้ง บริษัท พีคเพาเวอร์ มอเตอร์ จำกัด ขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจหลักด้านจำหน่ายรถยนต์สามล้อไฟฟ้า รวมทั้งซ่อมและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับรถยานยนต์ไฟฟ้า
ทีมข่าวได้รับเฉลยว่าชื่อรุ่น แพนเธอร่า ตุ๊กตุ๊กโฉมไทยไฉนชื่อฝรั้งฝรั่ง ดูโลโก้จะนึกว่า เป็นชื่อเสือจากัวร์ หาใช่ไม่ “แพนเธอร่า” คือ “พาเธอแล่น”

• มุมมองรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า

เราเปิดประเด็นด้วยมุมมองเกี่ยวกับรถไฟฟ้าของคนทำรถไฟฟ้า คุณไชยรัตน์ ชี้ว่าเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริงและเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้ สำหรับรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าถือว่าจุดเริ่มต้นที่ดีของยานยนต์ไฟฟ้าในไทยเพราะมีข้อดีหลายอย่าง เช่น

1. เป็นยานพาหนะที่ปราศจากมลพิษทางอากาศ
2. เป็นยานพาหนะที่ปราศจากมลพิษทางเสียง
3. ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษา และง่ายต่อการบำรุงรักษา
4. ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของเชื้อเพลิง
5. รักษา อัตลักษณ์, ภาพลักษณ์ ความเป็นรถตุ๊กๆ ดั้งเดิมไว้ได้

• รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของบริษัท

ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานอยู่ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม การผลิตชิ้นส่วน Chassis และ Body ทั้งหมดอยู่ที่นี่ ในส่วนของมอเตอร์นำเข้าจากประเทศจีน

รุ่นและสเปครถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของบริษัท

คุณไชยรัตน์ เล่าว่า บริษัทผลิตรถทั้งหมด 5 แบบ คือ
1. รถตุ๊กตุ๊ก สาธารณะตอนเดียว รุ่น Classic 1
2. รถตุ๊กตุ๊ก ส่วนบุคคลตอนเดียว รุ่น Classic 1 P
3. รถตุ๊กตุ๊ก ส่วนบุคคลบรรทุก รุ่น Classic 1 T
4. รถตุ๊กตุ๊ก ส่วนบุคคลสองตอน รุ่น Classic 2
5. ผลิตตามที่ลูกค้าสั่ง

สเปครถนั้นใช้มอเตอร์กระแสตรงไร้แปรงถ่าน (BLDC Motor)พิกัด 4 kW Battery Lithium 7.2 kWh ความเร็วสูงสุด 66 km./hr. ระยะเวลาชาร์จไฟ 2 hr. ระยะทางวิ่ง 118.75 km. สามารถทำการชาร์จได้ที่บ้าน ด้วยปลั๊กไฟบ้านทั่วไปแรงดัน 220 โวลท์ได้ และหัวชาร์จเป็นแบบ IEC 62196 Type 2

•  กลุ่มลูกค้าคือใคร

คุณไชยรัตน์ ตอบว่า ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าประจำ คือ กลุ่มผู้ใช้งานสามล้อรับจ้างสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากบริษัทมีการดำเนินการงานมาอย่างยาวนานและเป็นที่ยอมในกลุ่มผู้ใช้งานรถสามล้อในเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าในกลุ่มโรงงาน เกษตรกร ใช้ในงานบรรทุกของ และกลุ่มโรงแรม รีสอร์ท ใช้งานรับส่ง

ในอนาคตบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายขยายฐานลูกค้ายังไปยังต่างประเทศ ในแถบอาเซียนและยุโรปเป็นลำดับต่อไป

• บริการหลังการขาย

คุณไชยรัตน์ กล่าวว่านอกเหนือจากการที่ผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับแล้ว ในส่วนของการบริการหลังการขายบริษัทฯ ก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ทางบริษัทมีนโยบายการบริการหลังการขายว่า “เมื่อรถลูกค้าเสียจะได้รับการซ่อมแซมและใช้งานได้ภายใน 48 ชั่วโมง” บริษัทจึงได้จัดให้มีการบริการหลังการขาย คือ

- เปิดหลักสูตรอบรม การซ่อมบำรุงรักษาเบื้องต้นที่ทำได้ง่ายให้กับผู้ใช้รถ จนปัจจุบันเกิดการรวมกลุ่มกันของผู้ใช้รถตุ๊กตุ๊กๆไฟฟ้าที่สมาชิกคอยให้คำปรึกษาช่วยเหลือกัน
- ระบบการประกันสินค้าชำรุดเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า
- ตารางการตรวจเช็คสภาพรถ บำรุงรักษาเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด
- มีสต็อกอะไหล่ ทำให้อะไหล่จะถูกจัดส่งออกไปอย่างรวดเร็ว

•  จุดเด่นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของบริษัท 

ในช่วงท้ายก่อนจบการสัมภาษณ์ ทีมข่าวขอให้คุณไชยรัตน์ ช่วยสรุปเกี่ยวกับจุดแข็งของรถตุ๊กไฟฟ้าของบริษัท
คุณไชยรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทพีคเพาเวอร์ กล่าวว่า รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของบริษัทพีค เพาเวอร์ จำกัด พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของผู้ใช้งานรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าอย่างแท้จริง เป็นรถที่มีความคุ้มค่า ประหยัด ชาร์จไฟได้เร็ว วิ่งได้ไกล รองรับการน้ำหนักได้มาก ซึ่งผ่านการพิสูจน์แล้วจากลูกค้าที่ยังคงไว้วางใจเลือกใช้งานรถของบริษัทมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีรถยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง